ราชวงศ์เดนมาร์ก


พระราชสันตติวงศ์ในพระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9
เจ้าหญิงหลุยส์แห่งเฮสส์-คาสเซิล
ราชสันตติวงศ์ในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 (Descendants of King Christian IX) เป็นเรื่องราวของการสืบสายพระโลหิตของพระราชโอรสและธิดาทั้งหมด 6 พระองค์ในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก (8 เมษายน พ.ศ. 2361 - 29 มกราคม พ.ศ. 2449 เสวยราชสมบัติ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2406) โดยมีพระราชนัดดา 39 พระองค์ และพระราชปนัดดา (เหลน) 84 พระองค์ แต่ละพระองค์จึงเป็นทั้งพี่น้องกันหรือพระญาติชั้นที่หนึ่งซึ่งกันและกัน (first cousin) และด้วยการอภิเษกสมรสเข้าไปยังราชสำนักต่างๆ ของทวีปยุโรป พระองค์จึงทรงมีผลกระทบต่อโชคชะตาของราชวงศ์ยุโรปอย่างมาก โดยทรงเกี่ยวข้องทางสายพระโลหิตและการอภิเษกสมรสกับราชวงศ์อังกฤษ นอร์เวย์ เบลเยียม กรีซโรมาเนีย ยูโกสลาเวีย สเปน และรัสเซีย จึงทำให้ทรงได้รับพระราชสมัญญาว่า "พระสัสสุระแห่งยุโรป" (Father-in-Law of Europe)
สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 ทรงครองราชบัลลังก์แห่งเดนมาร์กเป็นเวลานานเกือบ 50 ปี ในระหว่างปี พ.ศ. 2406-2449 (ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5) พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2361 ณ พระราชวังก็อททอร์ป แคว้นชเลสวิก-โฮลชไตน์ (ขณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก) โดยมีพระอิสริยยศเมื่อแรกประสูติคือ เจ้าชายคริสเตียนแห่งชเลสวิก-โฮลชไตน์-ซอนเดอร์บูร์ก-กลึกซ์บูร์ก เป็นพระโอรสในเจ้าชายฟรีดริช วิลเฮล์มแห่งชเลสวิก-โฮลชไตน์-ซอนเดอร์บูร์ก-กลึกซ์บูร์ก และเจ้าหญิงหลุยส์ แคโรลีนแห่งเฮสส์-คาสเซิล (พระราชนัดดาในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 5 แห่งเดนมาร์ก ผ่านทางพระมารดา และยังสืบสายพระโลหิตมาจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งอังกฤษด้วย) หลังจากที่พระบิดาสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2374 พระมารดาของเจ้าชายคริสเตียนซึ่งทรงประสบปัญหาทางการเงิน ได้ทรงส่งพระองค์พร้อมกับพระอนุชาและกนิษฐาไปอยู่ในความดูแลของพระมาตุจฉาคือ สมเด็จพระราชินีมารี โซฟีแห่งเดนมาร์ก (พระมเหสีในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 6) ทำให้ทรงได้เข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อยทหารบกแห่งเดนมาร์ก ต่อมาเมื่อมีพระชนมายุได้ 24 พรรษา พระองค์ทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับ เจ้าหญิงหลุยส์แห่งเฮสส์-คาสเซิล (หลุยส์ วิลเฮลมินา ฟรีเดอริคา แคโรลีนา ออกุสตา จูลี; 7 กันยายน พ.ศ. 2360 - 29 กันยายน พ.ศ. 2441) พระญาติทางฝ่ายพระมารดา ในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2385 ณ พระราชวังอามาเลียนบอร์ก กรุงโคเปนเฮเกน และประสูติพระราชโอรสและธิดาทั้งสิ้น 6 พระองค์ในระหว่างปี พ.ศ. 2386-2401 ด้วยการอภิเษกสมรสกับพระญาติสนิทในกษัตริย์แห่งเดนมาร์กถือเป็นการช่วยเสริมให้สิทธิในราชบัลลังก์ของพระองค์กับพระชายามั่นคงมากยิ่งขึ้น และเมื่อพระมารดา พระเชษฐา และพระเชษฐภคินีของเจ้าหญิงหลุยส์ทรงสละสิทธิการสืบราชสมบัติ ทำให้ทรงกลายเป็นรัชทายาทที่มีสิทธิในราชบัลลังก์มากที่สุดในการสืบราชสันตติวงศ์ต่อจากสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 8 และสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 7 แห่งเดนมาร์กตามลำดับ
ในปี พ.ศ. 2390 ด้วยความเห็นชอบจากมหาอำนาจยุโรปในเวลานั้น เจ้าชายคริสเตียนทรงได้รับเลือกให้เป็นรัชทายาทสืบราชบัลลังก์เดนมาร์กโดยสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 8 (ซึ่งทรงเห็นว่าพระราชโอรสพระองค์เดียวที่ต่อมาคือ สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 7 คงไม่มีสายพระโลหิตแน่นอน) โดยเหตุผลในการเลือกรัชทายาทในครั้งนี้เป็นเพราะการอภิเษกสมรสกับพระราชภาติกาในกษัตริย์แห่งเดนมาร์ก และการสละสิทธิการสืบราชสมบัติของบรรดาสมาชิกในราชวงศ์เฮสส์ ทั้งนี้โดยทางนิตินัยแล้วเจ้าหญิงหลุยส์มีสิทธิในราชบัลลังก์มากกว่าเจ้าชายคริสเตียน แต่พระองค์ทรงสละสิทธิการสืบราชสมบัติให้แก่พระสวามีในปี พ.ศ. 2395 โดยทรงเลือกเป็นเพียงพระชายาในรัชทายาทหรือพระมเหสีของกษัตริย์แห่งเดนมาร์กในอนาคตเท่านั้น ในที่สุดเจ้าชายคริสเตียนได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็น สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2406 หลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 7 จากนั้นอีกหนึ่งปีต่อมาเดนมาร์กได้เข้าสู่สงครามชเลสวิก-โฮลชไตน์ครั้งที่สอง (Second Schleswig War) กับกองทัพพันธมิตรปรัสเซีย (เยอรมนี)/ออสเตรีย เพื่อแย่งชิงสิทธิการครอบครองเหนือดินแดนชเลสวิกและโฮลชไตน์ ซึ่งอยู่ทางใต้ของเดนมาร์ก โดยผลของสงครามทำให้ต้องเสียดินแดนทั้งสองให้กับปรัสเซียไปในปี พ.ศ. 2408 สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 และสมเด็จพระราชินีหลุยส์ทรงเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครบรอบ 50 ปี ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2435 โดยมีพระประยูรญาติจำนวนมากเสด็จมาร่วมแสดงความยินดีที่พระราชวังหลวงในกรุงโคเปนเฮเกน ทั้งสองพระองค์มักทรงต้อนรับบรรดาพระราชโอรส ธิดา และพระราชนัดดาที่เสด็จมารวมตัวกันในช่วงฤดูร้อนของทุกปี และทรงประทับอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดมาจนเมื่อสมเด็จพระราชินีหลุยส์เสด็จสวรรคตในเดือนกันยายน พ.ศ. 2441 ขณะมีพระชนมายุ 81 พรรษา ส่วนสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 ทรงดำรงพระชนม์ชีพต่อมาและมีพระพลานามัยเสื่อมถอยลงเป็นลำดับจนกระทั่งเสด็จสวรรคตในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2449 ณ พระราชวังอามาเลียนบอร์ก กรุงโคเปนเฮเกน สิริพระชนมพรรษา 87 พรรษา

บทนำ

พระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ ณ พระราชวังเฟรเดนส์บอร์ก เมื่อปี พ.ศ. 2429
สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 มีพระราชนัดดาทั้งสิ้น 39 พระองค์ (เป็นชายจำนวน 23 พระองค์ และเป็นหญิงจำนวน 16 พระองค์) จากพระราชโอรสและธิดาหกพระองค์ โดยพระราชนัดดาพระองค์แรกคือ เจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ดยุกแห่งคลาเรนซ์-เอวอนเดล (ประสูติเมื่อวันที่ 8 มกราคมพ.ศ. 2407) พระโอรสพระองค์แรกในเจ้าฟ้าหญิงอเล็กซานดรา พระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 ส่วนพระราชนัดดาพระองค์สุดท้ายคือ เจ้าฟ้าหญิงมาร์เกรเธแห่งเดนมาร์ก (ประสูติเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2438) พระธิดาพระองค์เดียวในเจ้าฟ้าชายวาลเดมาร์แห่งเดนมาร์ก พระราชโอรสพระองค์เล็กและสิ้นพระชนม์ชีพเป็นพระองค์สุดท้ายในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 นอกจากนี้เจ้าหญิงมาร์เกรเธยังเป็นพระราชนัดดาที่สิ้นพระชนม์เป็นพระองค์สุดท้าย ด้วยโรคชรา (97 พรรษา) เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2535 เป็นเวลาเกือบเก้าสิบปีหลังจากการเสด็จสวรรคตของพระอัยกา
แม้ว่าสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 และเจ้าหญิงหลุยส์แห่งเฮสส์-คาสเซิลสืบเชื้อสายจากบรรพบุรุษเดียวกัน แต่มีพระราชนัดดาที่อภิเษกสมรสกันเองคือ การอภิเษกสมรสในปี พ.ศ. 2439 ระหว่างเจ้าฟ้าชายคาร์ลแห่งเดนมาร์ก (ต่อมาคือ สมเด็จพระราชาธิบดีโฮกุนที่ 7 แห่งนอร์เวย์) ซึ่งเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 8 พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 กับเจ้าฟ้าหญิงม็อดแห่งเวลส์ ซึ่งเป็นพระธิดาพระองค์เล็กในเจ้าฟ้าหญิงอเล็กซานดรา พระขนิษฐาในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 8 นอกจากนี้ยังมีพระราชนัดดาได้อภิเษกสมรสกับพระราชปนัดดาคือ การอภิเษกสมรสในปี พ.ศ. 2462 ระหว่างเจ้าฟ้าชายแอ็กเซิลแห่งเดนมาร์ก ซึ่งเป็นพระโอรสในเจ้าฟ้าชายวาลเดมาร์ พระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 กับ เจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเรธาแห่งสวีเดน ซึ่งเป็นพระธิดาในเจ้าฟ้าหญิงอินเกบอร์ก พระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 8 พระเชษฐา

สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 สมเด็จพระราชินีหลุยส์ และพระราชโอรสธิดา
สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 และเจ้าหญิงหลุยส์แห่งเฮสส์-คาสเซิล ทรงดำรงพระชนม์ชีพยืนยาวจนมีโอกาสเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครบรอบ 50 ปี ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2435 และเห็นพระราชโอรสและธิดาอภิเษกสมรสเข้าไปในราชวงศ์ต่างๆ ของทวีปยุโรป เช่น อังกฤษ กรีซ รัสเซีย ฮาโนเวอร์ และฝรั่งเศส รวมไปถึงการประสูติของพระราชปนัดดาส่วนใหญ่ใน 84 พระองค์
สมเด็จพระราชธิบดีจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ (พระอิสริยยศเดิมคือ เจ้าฟ้าชายวิลเฮล์มแห่งเดนมาร์ก ซึ่งทรงได้รับเชิญให้ไปครองราชบัลลังก์แห่งกรีซในปี พ.ศ. 2406) พระราชโอรสพระองค์ที่สามในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 เป็นทั้งพระปัยกาในพระราชปนัดดาพระองค์แรกคือ แกรนด์ดัชเชสมาเรีย ปาฟลอฟนาแห่งรัสเซีย (18 เมษายน พ.ศ. 2433 - 13 ธันวาคมพ.ศ. 2501) พระธิดาพระองค์เดียวในเจ้าฟ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งกรีซและเดนมาร์ก และพระราชปนัดดาพระองค์สุดท้ายด้วยคือ เจ้าฟ้าชายไมเคิลแห่งกรีซและเดนมาร์ก (ประสูติ 7 มกราคม พ.ศ. 2482) พระโอรสในเจ้าฟ้าชายคริสโตเฟอร์แห่งกรีซและเดนมาร์ก นอกจากนี้ยังเป็นพระปัยกาในพระราชปนัดดาที่ดำรงพระชนม์ชีพยืนยาวที่สุด (94 ปี) คือ เลดี้ แคทเธอรีน แบรนด์แรม (พระอิสริยยศเดิมคือ เจ้าฟ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งกรีซและเดนมาร์ก4 พฤษภาคม พ.ศ. 2456 - 2 ตุลาคม พ.ศ. 2550) พระธิดาพระองค์สุดท้ายในสมเด็จพระราชาธิบดีคอนสแดนตินที่ 1 แห่งกรีซ ในปัจจุบันสายพระโลหิตในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 ที่มีพระชนมายุยืนยาวที่สุด และเป็นหนึ่งในหกรุ่นพระราชปนัดดาที่ยังทรงพระชนม์ชีพคือ เจ้าฟ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ (ประสูติ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2464) พระโอรสพระองค์เดียวในเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์แห่งกรีซและเดนมาร์ก
ก่อนการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 ในปี พ.ศ. 2449 มีพระราชนัดดาหลายพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ไปก่อนแล้ว ได้แก่
  1. แกรนด์ดยุกอเล็กซานเดอร์ อเล็กซานโดรวิชแห่งรัสเซีย สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2413 ด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  2. เจ้าฟ้าชายจอห์นแห่งเวลส์ สิ้นพระชนม์หลังจากประสูติได้เพียงหนึ่งวันในปี พ.ศ. 2414
  3. เจ้าฟ้าหญิงโอลกาแห่งกรีซและเดนมาร์ก สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2423
  4. เจ้าฟ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งกรีซและเดนมาร์ก สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2434 จากการตกพระโลหิตขณะคลอดพระโอรสพระองค์สุดท้าย
  5. เจ้าฟ้าชายอ้ลเบิร์ต วิกเตอร์ ดยุกแห่งคลาเรนซ์และเอวอนเดล สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2435 ด้วยโรคไข้หวัดใหญ่
  6. แกรนด์ดยุกจอร์จ อเล็กซานโดรวิชแห่งรัสเซีย สิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2442

สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 เจ้าหญิงหลุยส์ และพระราชโอรส-ธิดา[แก้]

บรรพบุรุษของสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 และเจ้าหญิงหลุยส์[แก้]

สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 และเจ้าหญิงหลุยส์มีพระปัยยิกา (ทวด) พระองค์เดียวกันคือ เจ้าฟ้าหญิงแมรี่แห่งอังกฤษ (พระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2) ซึ่งเป็นพระอัยยิกาในเจ้าชายวิลเฮล์มแห่งเฮสส์-คาสเซิล (พระบิดาในเจ้าหญิงหลุยส์) และเจ้าหญิงหลุยส์-แคโรลีนแห่งเฮสส์-คาสเซิล (พระมารดาในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9) นอกจากนี้สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 ยังทรงสืบสายพระโลหิตจากพระขนิษฐาในพระปัยยิกาคือ เจ้าฟ้าหญิงหลุยส์แห่งอังกฤษ (พระมเหสีในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 5 แห่งเดนมาร์ก)
  • เจ้าฟ้าหญิงแมรี่แห่งอังกฤษ → เจ้าชายฟรีดริชแห่งเฮสส์-คาสเซิล → เจ้าชายวิลเฮล์มแห่งเฮสส์-คาสเซิล → เจ้าหญิงหลุยส์
  • เจ้าฟ้าหญิงแมรี่แห่งอังกฤษ → เจ้าชายชาร์ลส์ ผู้ปกครองรัฐแห่งเฮสส์-คาสเซิล → เจ้าหญิงหลุยส์-แคโรลีนแห่งเฮสส์-คาสเซิล → สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9
  • เจ้าฟ้าหญิงหลุยส์แห่งอังกฤษ → เจ้าฟ้าหญิงหลุยส์แห่งเดนมาร์ก → เจ้าหญิงหลุยส์-แคโรลีนแห่งเฮสส์-คาสเซิล → สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9

การอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 และเจ้าหญิงหลุยส์[แก้]

สมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 (ซึ่งเสวยราชสมบัติเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2406 หลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 7) ทรงราชาภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงหลุยส์ (ในขณะที่ยังดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายแห่งชเลสวิก-โฮลชไตน์-ซอนเดอร์บูร์ก-กลึกซ์บูร์ก) เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2385 ณ พระราชวังอามาเลียนบอร์ก กรุงโคเปนเฮเกน (ทั้งสองพระองค์ทรงมีโอกาสเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครบรอบ 50 ปีในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2435 ก่อนที่เจ้าหญิงหลุยส์จะสิ้นพระชนม์ในอีกหกปีต่อมา)
การอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 และเจ้าหญิงหลุยส์
พระนามประสูติสิ้นพระชนม์ราชาภิเษกสมรสและพระราชโอรส-ธิดา
1818 Christian-05.jpgคริสเตียนที่ 9
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเดนมาร์ก
8 เมษายน
พ.ศ. 2361
พระราชวังก็อททอร์ป
เมืองชเลสวิก
(รัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์)
29 มกราคม
พ.ศ. 2449
พระราชวังอามาเลียนบอร์ก
กรุงโคเปนเฮเกน
ราชาภิเษกสมรส 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2385
ณ พระราชวังอามาเลียนบอร์ก กรุงโคเปนเฮเกน

พระราชโอรส 3 พระองค์, พระราชธิดา 3 พระองค์
(รวมถึง พระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 8 แห่งเดนมาร์กพระราชินีอเล็กซานดราแห่งสหราชอาณาจักร พระราชาธิบดีจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ และ พระจักรพรรดินีมาเรีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย)

พระราชภาคิไนย (หลานชาย) 23 พระองค์ และพระราชภาติกา (หลานสาว) 16 พระองค์
(รวมถึง พระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร พระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 10 แห่งเดนมาร์ก จักรพรรดินิโคลาสที่ 2 แห่งรัสเซีย กษัตริย์คอนสแตนตินที่ 1 แห่งกรีซ พระราชาธิบดีโฮกุนที่ 7 และสมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์)
Luisa wife of Ch9.jpgหลุยส์แห่งเฮสส์-คาสเซิล7 กันยายน
พ.ศ. 2360
ปราสาทรุมเพิลไฮม์
เมืองคาสเซิล รัฐเฮสส์
(เยอรมนี)
29 กันยายน
พ.ศ. 2441
พระราชวังเบิร์นสทอร์ฟ
เมืองเก็นทอฟท์
ใกล้กรุงโคเปนเฮเกน

พระราชโอรสและธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 และเจ้าหญิงหลุยส์[แก้]


พระนามประสูติสิ้นพระชนม์คู่สมรส (ประสูติและสิ้นพระชนม์) และพระโอรส-ธิดา
FrederickVIII.jpgพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 83 มิถุนายน
พ.ศ. 2386
14 พฤษภาคม
พ.ศ. 2455
ราชาภิเษกสมรส 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2412
เจ้าฟ้าหญิงหลุยส์แห่งสวีเดน (พ.ศ. 2394–2469)
พระราชโอรส 4 พระองค์ และ พระราชธิดา 4 พระองค์
(รวมถึง พระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 10 แห่งเดนมาร์ก
และ พระราชาธิบดีโฮกุนที่ 7 แห่งนอร์เวย์)
Alexandra of Denmark02.jpgเจ้าฟ้าหญิงอเล็กซานดรา1 ธันวาคม
พ.ศ. 2387
20 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2468
อภิเษกสมรส 10 มีนาคม พ.ศ. 2406
เจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ (พ.ศ. 2383–2453)
ต่อมา พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร
พระโอรส 3 พระองค์ และ พระธิดา 3 พระองค์
(รวมถึง พระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร
และ เจ้าฟ้าหญิงม็อดแห่งเวลส์ สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์)
King George of Hellenes.jpgเจ้าฟ้าชายวิลเฮล์ม
ต่อมา พระราชาธิบดีจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ
24 ธันวาคม
พ.ศ. 2388
18 มีนาคม
พ.ศ. 2456
ราชาภิเษกสมรส 27 ตุลาคม พ.ศ. 2410
แกรนด์ดัชเชสโอลกา คอนสแคนตินอฟนาแห่งรัสเซีย (พ.ศ. 2394–2469)
พระราชโอรส 5 พระองค์ และ พระราชธิดา 3 พระองค์
(รวมถึง พระราชาธิบดีคอนสแตนตินที่ 1 แห่งกรีซ)
Maria Feodorovna (Dagmar of Denmark).jpgเจ้าฟ้าหญิงแด็กมาร์
ต่อมา มาเรีย เฟโอโดรอฟนา
26 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2390
13 ตุลาคม
พ.ศ. 2471
อภิเษกสมรส 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2409 (เข้ารีตออร์โธด็อกซ์และเปลี่ยนพระนาม)
แกรนด์ดยุกอเล็กซานเดอร์ มกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย (พ.ศ. 2388–2437)
ต่อมา จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย
พระโอรส 4 พระองค์ และ พระธิดา 2 พระองค์
(รวมถึง จักรพรรดินิโคลาสที่ 2 แห่งรัสเซีย)
Princess Tira of Denmark.jpgเจ้าฟ้าหญิงไธรา29 กันยายน
พ.ศ. 2396
26 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2476
อภิเษกสมรส 21 ธันวาคม พ.ศ. 2421
เจ้าฟ้าชายแอร์นส์ ออกุสต์แห่งฮาโนเวอร์ (พ.ศ. 2388–2466)
ดยุกแห่งคัมเบอร์แลนด์และเทวิอ็อตเดล
พระโอรส 3 พระองค์ และ พระธิดา 3 พระองค์
Prince Valdemar of Denmark 1936.jpgเจ้าฟ้าชายวาลเดมาร์27 ตุลาคม
พ.ศ. 2401
14 มกราคม
พ.ศ. 2482
อภิเษกสมรส 22 ตุลาคม พ.ศ. 2428
เจ้าฟ้าหญิงมารีแห่งออร์เลอ็องส์ (พ.ศ. 2408–2452)
พระโอรส 4 พระองค์ และ พระธิดา 1 พระองค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น